ที่ราบอีสานของอเมริกา



ว่างๆแอบไปดูที่ราบสุงรัฐ เชาท์ดาโกดา ของอเมริกา...ก่อนจะเข้าไปถึงก็เจอกับทุ่งหญ้าขนาดใหญ่..มีฟาร์มเลี้ยงสัตว์ มีทุ่งข้าวโพด..ทุ่งหญ้าที่เห็นขนาดใหญ่ทำให้คิดถึง อีสานของไทยเราโดยเฉพาะทุ่งก่ลาร้องให้

พื้นตรงนี้..เขาปลูก กังหันลม ไว้เยอะมากๆเป็นพันๆหมื่นๆต้น อืมม์


ยังเป็นทางที่ผ่านทุ่งหญ้าปละฟาร์มเลี้ยงสัตว์

..ตื่นตาจังเลย..ไม่เคยเจอต้นกังหันลมเยอะแบบนี้มาก่อน

เซาท์ดาโคดาของสหรัฐตั้งอยู่ในแถบมิดเวสของอเมริกา

ดาโคดาเป็นชื่อของชนเผ่าอินเดีย เซาท์ดาโคดาเป็นรัฐที่มีประชากรน้อยที่สุด
เซาท์ดาโคดา ภูดอ้อมล้อมด้วยรัฐต่อไปนี้คือ
North Dakota, Minnesota, ไอโอวา, เนบราสก้า, ไวโอมิงและมอนแทนา

ชอบกังหันเลยลงภาพเยอะ...

ชมภาพขนาดจริงคลิกเลย...

ต้นศตวรรษที่ 19 ในปลายศตวรรษที่ 19 นิคมยุโรปอเมริการุนแรงขึ้นหลังจากตื่นทองในเนินเขาสีดำ
เกิดการบุกรุกเข้าไปชนท้องถิ่น
คนงานก่อสร้างทางรถไฟ คนงานเหมืองรุกล้ำเกิดความขัดแย้งชาวท้องถิ่นรุกลามจนเกิดสงครามอินเดียราวปี1890

Fall Park เข้าไปชมน้ำตกที่นี่ช่วงน้ำแห้ง

เขามีรถ..รับส่งพาชมเมืองด้วย วุ้ย..ดีจังเลยขอรับ


ภายในรถที่จะนำชมรอบเมือง

ยังไม่ถึงเวลาออก คนขับก็จะคุย

รายละเอียดให้ฟังว่า เราสามารถ
ลงชมเมืงได้
และรถจะวิ่งวนกลับมาทุกๆ45นาที

รัฐเซาท์ดาโคตา (South Dakota) เป็นรัฐของสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่บริเวณตอนเหนือของประเทศ ชื่อของรัฐตั้งชื่อตาม ลาโคตาและดาโคตา อินเดียนแดงเผ่าซู เมืองหลวงของรัฐเซาท์ดาโคตา คือเมือง ปิแอร์ เมืองสำคัญอื่นๆ ได้แก่ ซู ฟอลส์ และ แรพิดซิตี สถานท่องเที่ยวสำคัญของรัฐคือ เมานต์รัชมอร์ อนุสรณ์สถานแห่งชาติตั้งอยู่ใกล้เมือง คีย์สโตน โดยบริเวณหน้าผามีรูปแกะสลักประธานาธิบดี 4 คน ของสหรัฐ ได้แก่ จอร์จ วอชิงตัน, โทมัส เจฟเฟอร์สัน, ทีโอดอร์ รูสเวลต์, และ อับราฮัม ลิงคอล์น และเป็นที่มาของชื่อเล่นของรัฐคือ "รัฐเมานต์รัชมอร์"

ข้อมูลจากวิกิพีเดีย


จะชมภาพขนาดจริงอย่าลืมคลิกภาพนะขอรับ

รถเริ่มออกจาก Fall Park กันแล้วววว


ชื่อภาษาไทย         มลรัฐเซาท์ดาโคตา
ชื่อภาษาอังกฤษ         State of South Dakota
ชื่อย่อมลรัฐ        SD
ชื่อเล่นมลรัฐ        The Mount Rushmore State ,The Sunshine State
เมืองหลวงมลรัฐ        เมืองปิแอร์ (Piarre)
เมืองใหญ่สุด        เมืองซู ฟอลล์ (Sioux Falls)
ผู้ว่าการมลรัฐ        นายไมค์ ราวส์ (Mike Rounds)
พื้นที่            อันดับที่ 17    77,163 ตร.ไมล์ หรือ 199,905 ตร.กม.
ประชากร        อันดับที่ 46    754,844 คน
อาณาเขตติดต่อ         มลรัฐนอร์ทดาโคดา, มลรัฐเนบราสกา, มลรัฐไอโอวา, มลรัฐไวโอมิง และมลรัฐมินนิโซตา

รถที่พาชมพร้อมอธิบายความเป็นมาของแต่ละตึกล้วนเก่าแก่


พอดีว่าหาข้อมูลจากหลายๆที่..พร้อมกับลงภาพที่เที่ยวมาสลีบกัน
อาจจะมีข้อมูลซ้ำกันบ้างก็ถือว่าเป็นการทบทวนก็แล้วกันนะขอรับ










สถานที่และเมืองสำคัญ

ภูเขารัชมอร์ หรือ เมานต์รัชมอร์ (Mount Rushmore) ตั้งอยู่ในมลรัฐเซาท์ดาโคตา มีรูปสลักหน้าประธานาธิบดีอเมริกันสี่คนบนหน้าผาหินแกรนิตสูง 18 เมตร โดยแต่ละคนจะเป็นตัวแทนของอุดมการณ์ในแต่ละด้านของประเทศ
จอร์จ วอชิงตัน - ด้านการสร้างชาติ
โธมัส เจฟเฟอร์สัน - ด้านปรัชญาการเมือง
ธีโอดอร์ รูสเวลต์ - ด้านการแผ่ขยายและอนุรักษ์
อับราฮัม ลิงคอล์น - ด้านการสงวนรักษา

โดยรูปเหมือนทั้งสี่ได้แกะสลักเมื่อปี ค.ศ. 1927 - ค.ศ. 1941 ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1923 โดเอน รอบินสัน นักประวัติศาสตร์แห่งมลรัฐเซาท์ดาโกตา เสนอแนะว่าน่าจะแกะสลักยอดเขาหินแกรนิตแหลมชันในภูเขาแบล๊คฮิลล์ ที่มีชื่อว่า เดอะ นีเดิลส์ หรือแท่งเข็ม ให้เป็นรูปเหมือนวีรบุรุษตะวันตกของอเมริกา เช่น คิด คาร์สัน และ บัฟฟาโล บิล โคดี แต่บอร์กลัมซึ่งเป็นผู้ดำเนินงานโครงการนี้ไม่เห็นด้วย เขาคิดว่างานใหญ่เช่นนี้เป็นงานที่มีความสำคัญระดับชาติ คำตอบคือ 4 ประธานาธิบดี ผู้ได้รับเลือกให้เป็นสัญลักษณ์ของกำเนิดและอุดมคติแห่งชาติ งานสลักอนุสาวรีย์แห่งชาติดำเนินการระหว่างค.ศ. 1927 - ค.ศ. 1941 ด้วยค่าใช้จ่าย 990,000 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนใหญ่มาจากงบประมาณของรัฐบาลกลาง บางส่วนได้มาจากการบริจาคของประชาชน คนงานส่วนใหญ่เป็นคนงานเหมืองในท้องถิ่น ภายในเวลา 14 ปี ต้องจ้างคนงานแกะสลักร่วม 360 คน

แกะหน้าประธานาธิบดีสำหรับวันนี้ไม่ได้ไป....อยู่ไกลออกไปอีก...พอดีว่าอากาศวันนี้ร้อนมากๆด้วย 100กว่าฟาเรนไฮ??

ให้ชมยอกโบสถ์นะขอรับ สวยมากๆ...




รถคันสีเขียวนี้ละที่พาเที่ยวรอบเมือง




ทำเลสำหรับอนุสาวรีย์ บอร์กลัมเลือกจุดที่มีชื่อว่า เมานต์ รัชมอร์ ความสูง 1,745 เมตร เพราะหินแกรนิตบริเวณนั้นเนื้อละเอียด แต่กระนั้นยังต้องทำความสะอาดผิวหน้าของหิน กว่าจะถึงเนื้อหินชั้นที่มีคุณภาพเหมาะแก่การแกะสลัก ต้องตัดผิวที่กรำแดดกรำฝนและแตกร้าวทิ้งไปรวมน้ำหนัก 450,000 ตัน
นอกจากความเหมือนของดวงหน้า ดวงตาของประธานาธิบดีทั้ง 4 ยิ่งโดดเด่น วิธีการคือแกะบริเวณที่เป็นลูกตาให้ลึกเป็นหลุมลงไป โดยเว้นเนื้อหินแกรนิตเป็นรูปแท่งยาว 56 เซนติเมตร ไว้เป็นจุดรับแสงแดดที่ส่องกระทบ ประกายแสงแดดส่องตัดกับเงาดำของหลุมทำให้ดวงตาของรูปสลักราวมีชีวิต เฝ้ามองอเมริกาที่พวกเขาช่วยกันนำพามาสู่ความเป็นมหาอำนาจโลกในปัจจุบัน

คลิกติดตามภาค(2)ทุ่งกุลาร้องให้ที่อเมริกา...

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ดอกไม้ประจำชาติเยอรมนี

ดอกไม้ประจำประเทศภูฏาน ดอกป็อปปี้สีฟ้า

ดอกไม้ประจำชาติของอินเดีย